ตุ๊กตาน้องเสือดำ เรื่องระหว่างคนกับสัตว์ และเรื่องของคนรักษ์สัตว์
29 ปี สืบ นาคะเสถียร หรือเสียงกระสุนปืนนัดนั้นจะแผ่วจางลง?
ขออนุญาตเขียนเรื่องที่มีสาระแบบชิลๆตามประสาผมนะครับ...
ชั่วชีวิตของผม ตั้งแต่เด็ก..ยกเว้นตุ๊กตุ่นตุ๊กตาแนว Super Hero ตามประสาที่เด็กผู้ชายส่วนใหญ่มักจะชอบแล้ว ผมก็ไม่เคยมีความคิดที่จะซื้อตุ๊กตาแนวสวยงามน่ารักมาเล่น หรือเอามากอดเพื่อให้นอนหลับฝันดีเลยสักครั้งเดียว ที่สวยและน่ารักมากๆตัวเดียวในสายตาผมก็คงจะเป็นตุ๊กตา Chucky ในหนังเรื่อง Child's Play เท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง..ผมเดินในห้างสรรพสินค้าเล็กๆใกล้บ้าน ก็เหลือบไปเห็นตุ๊กตา น้องเสือดำ ตัวนี้เข้า เหมือนรักแรกพบ..ที่ทำให้ผมยืนอมยิ้มมองดูน้องด้วยความรู้สึกรัก และตัดสินใจควักเงินสองร้อยกว่าบาทซื้อน้องเสือดำตัวที่ท่านเห็นในรูปกลับมาบ้าน ปล่อยให้แม่ค้าสาวมองตามด้วยความเคลือบแคลงใจ ว่าผมจะเอาน้องไปทำอะไร เอาไปฝากลูก? เอาไปทำคุณไสยเข้าพิธีสาปแช่ง หรือเอาไปให้ใคร?
ที่ผมคว้าตุ๊กตาน้องเสือดำติดตัวมา คงเป็นเพราะมันมีอารมณ์ร่วมทางสังคมบางอย่างที่ทุกคนได้แต่เก็บไว้ในใจมาพักใหญ่ เห็นสายตาแป๋วๆของน้อง "ดำดูดีดำด๊ำดำ" ที่ผมตั้งชื่อให้แล้ว ก็พาลทำให้นึกไปถึงเสือดำตัวหนึ่งที่มักจะนอนกลิ้งเล่นไปมาอยู่ที่ทางด่านในป่าห้วยขาแข้ง เหมือนแมวเหมียวสีดำตัวใหญ่ๆที่กำลังสุขกายสบายใจในป่าตรงโซนที่เปรียบเสมือนบ้านอันแสนสุขและปลอดภัยของมัน อยู่ดีๆก็มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งเอาปืนไปยิงมันซะงั้น ทั้งๆที่เป็นป่าอนุรักษ์ อยู่ในพื้นที่ป่าที่เป็นมรดกโลกด้วยซ้ำ!
ตั้งแต่เรียนชั้นประถม ผมได้ถูกปลูกฝังความคิดที่เสมือนความรู้คู่โลกไว้ว่า มนุษย์..คือสัตว์ประเสริฐ ส่วนสัตว์อื่นๆก็ตกรอบ..เป็นสัตว์ที่ไม่ประเสริฐไปโดยปริยาย เป็นการสรุปเรื่องของความเป็นสัตว์ที่แบ่งประเภทเบ็ดเสร็จไร้ข้อโต้แย้งโดย “คน” โดยไม่เคยไปสอบถามความเห็นจากสัตว์อื่นๆ เช่น หมู เป็ด ไก่ วัว กุ้ง ปู ปลาหรือหอย ว่าเห็นด้วยกับคำที่ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ” หรือเปล่า? โดยเฉพาะประชากรหอยแครง ถ้ามีการโหวตโดยรวมประชากรหอยแครงเข้าไปด้วย บางทีเราอาจไม่ได้ข้อสรุปแบบนี้ เพราะเรากินหอยแครงด้วยการเอาน้ำร้อนๆราดลงไปลวกพวกเขาและเธอต่อหน้าต่อตาแล้วกินเนื้อสดๆติดเลือดอย่างเอร็ดอร่อย ให้เหตุผลว่าบำรุงกำลังดี ซึ่งเป็นเหตุผลของ “คน” ฝ่ายเดียว นี่ยังไม่นับกุ้งฝอยที่ถูกกินทั้งๆที่ยังโดดดิ้นอยู่บนจาน จะยกย่องเรียกสายพันธุ์ตัวเองกันว่าสัตว์ประเสริฐก็เรียกไป เพราะกุ้งหอยไม่มีสิทธิ์มีเสียง มนุษย์..ไม่ต้องการความเห็นของกุ้งและหอย ผมเองก็ยังกินทั้งไก่ หมู ปู ปลา กุ้ง หอย แต่เรียกตัวเองว่าสัตว์ประเสริฐก็จะเขินๆเดินขาปัดนิดหน่อย เพราะรู้แก่ใจตัวเองว่ายังเบียดเบียน "ชีวิต" เค้าอยู่
ผมมักจะพูดกับคนใกล้ตัวเสมอว่าในระยะ 150 ปีที่ผ่านมา สัตว์ประเสริฐอย่างพวกเราอยู่ในยุคที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ไม่ว่าจะกี่พันปีที่ผ่านมา ก็จะมีภูมิปัญญาแบบเท่าที่เห็นอะไรจากที่ไหนแล้ว ก็ยังพอเอามาประยุกต์ใช้ได้ จะเป็นเครื่องทุ่นแรง อาวุธ ความเชื่อ พิธีกรรม เครื่องดนตรี ฯลฯ ก็ยังพอนำมาดัดแปลงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมถิ่นฐานสังคมของตัวเองกันได้ แต่ 150 ปีหลัง มันคนละเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น คนในเมืองหรือชาวบ้านย่านไหนก็ตามแต่ ไม่สามารถที่จะสร้างอุปกรณ์ทำให้พูดคุยและเห็นหน้าเห็นตาคนที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งภายในพริบตาเดียวแบบโทรศัพท์มือถือได้ และนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงให้เสียงที่ผมเปล่งออกมา เข้าไปอยู่ในแผ่นกลมๆบางๆสะท้อนแสง ที่สามารถบันทึกทั้งภาพและเสียงเข้าไปอยู่ในนั้นได้แบบแผ่น CD หรือ DVD
และคนเมื่อร้อยปีก่อน ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน ก็ไม่สามารถเดินทางไปยืนกินลมบนกำแพงเมืองจีน หรือหอไอเฟลได้ในหนึ่งวัน สิ่งเหล่านี้ทำได้ในยุคสมัยของเรา และมันสะท้อนถึงความน่าทึ่งของสัตว์ประเสริฐ พวกเราเป็นสัตว์โลกชนิดเดียวจริงๆ ที่สามารถปรุงแต่งทางอารมณ์ ให้มีความรู้สึกรักโลภโกรธหลง เป็นกลไกขับเคลื่อนความเป็นมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถผสมผสานปรุงแต่งรสชาติอาหารได้หลากหลายแบบ และยิ่งพิสดารพันลึกเข้าทุกที เพราะถึงวันนี้วัตถุดิบต่างๆทั้งสดทั้งแห้งพร้อมที่จะเดินทางไกลมาจากทุกสารทิศทั่วโลก เพื่อตอบสนองชิวหาเหล่าเราสัตว์ประเสริฐให้ได้อิ่มเอม !
และอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจะไม่พูดถึงด้วยก็กระไรอยู่ นั่นคือมนุษย์เป็นสัตว์โลกชนิดเดียวที่สามารถประกอบกิจกรรมทางเพศ มี Sex ได้ทุกวันทุกเวลา ตามแต่จิตจะจับ..ในโอกาสและสถานการณ์ที่เป็นใจ โดยไม่ต้องรอให้ถึงฤดูผสมพันธุ์อย่างสัตว์อื่นๆ
แต่ที่เขียนมาทั้งหมด มันเป็นแค่ด้านหนึ่งของเหรียญ เพราะอีกด้านหนึ่ง มนุษย์นี่..น่าผิดหวังที่สุด ถ้าคำว่า “น่าผิดหวัง” สามารถตั้งระดับเสียงบนตัวอักษรได้ มันก็คงถูกดัน Volume ให้อยู่ในระดับดังสุด มนุษย์นั้นมีโครงสร้างทางชีวภาพที่ซับซ้อน ในระดับที่สามารถหลอกลวงผู้อื่นได้ หลอกตัวเองว่าเป็นนักแต่งเพลงที่วงการเพลงไทยขาดแบบนี้ไปสักคนก็เสียดายแย่..ก็ได้ด้วย! สามารถพูดให้นรกเป็นสวรรค์ก็ได้อีก สามารถปรับระดับความ “ยุติธรรม” ไปตามที่เห็นสมควร ตามเกม ตามกลไกอะไรก็ตามก็ได้อีกเช่นกัน และทุกคนสามารถหาเหตุผลมารับรองและรองรับ ที่จะทำอะไรๆตามที่ตัวเองอยากจะทำ ทั้งๆที่ลึกๆก็รู้ว่ามันมีความเห็นแก่ตัวปะปนอยู่ ความน่าผิดหวังในตัวมนุษย์ข้อนี้ เหล่าหอยแครงที่ชะตากำลังจะขาดก็คงจะร้องอืมม! ประสานเสียงกันทั้งจาน เห็นด้วยอีกเช่นกัน
ผมจึงมีความคิดว่า หากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่า สมกับที่เป็นสัตว์ประเสริฐดังกล่าว ที่จะทำกับคนได้ ก็คือการให้ที่เป็นวิทยาทาน ในสิ่งที่ผมรู้มา เพื่อเป็นปฐมความรู้สำหรับคนรุ่นต่อๆไป แต่ถ้าอยากจะช่วยเหลือเกื้อกูลอะไรในโลกนี้ ผมคิดว่า “สัตว์ที่ไม่ประเสริฐ” คือสิ่งที่ผมอยากจะเข้าไปช่วยเหลือ และคงจะทำเท่าที่จะทำได้ เพราะสัตว์ที่ไม่ประเสริฐ ใช้ชีวิตตามธรรมชาติสร้างสรรค์ ไม่ปรุงแต่ง ไม่เสแสร้ง ไม่ล่อลวง ไม่หลอกหลอน ไม่น่าผิดหวัง
ที่พูดถึงเรื่องคนและสัตว์มายาวมิน้อย เพราะวันนี้ (1 ก.ย.) เป็นวันครบรอบ 29 ปี ของมนุษย์คนหนึ่งที่รักสัตว์ที่สุด ที่กระทำอัตวินิบาตกรรมตัวเองด้วยกระสุนปืน เพื่อหวังให้เสียงกระสุนปืนนัดนั้นสะท้อนก้องไปถึงคนที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สัตว์และผืนป่า น้องๆรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นเพื่อนผมอยู่มากมาย อาจไม่เคยได้ยินชื่อนี้ เขาคือ “สืบ นาคะเสถียร” นักวิชาการกรมป่าไม้อนาคตไกล ที่ไม่ใช่ตะเกียงไม่มีไส้หรือต้นไม้ไร้รากแก้ว คุณสืบ..เป็นคนมีความรู้ จบปริญญาโทเมืองนอก และกำลังได้ทุนเพื่อไปเรียนต่อปริญญาเอก ถ้าวันนี้คุณสืบ..ยังมีชีวิตอยู่ เชื่อว่าจะเป็นมนุษย์ที่เป็นสัตว์ประเสริฐขนานแท้ ที่จะนำและทำ..สิ่งดีๆให้กับประเทศนี้และโลกนี้ จะคุ้มค่าหรือไม่ก็ตาม แต่ด้วยกระสุนปืนนัดนั้น ทำให้ผืนป่า “ห้วยขาแข้ง” ได้ถูกประกาศรับรองให้เป็นมรดกโลกจนทุกวันนี้
ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์จะถือปืนเดินเข้าป่าที่เป็นเขตอนุรักษ์ แล้วไปพรากชีวิตสัตว์บางตัวเพียงเพื่อเพิ่มรสชาติและเรื่องเล่าให้ชีวิตของตัวเอง หวังจะเอากะโหลกและหนังของสัตว์ตัวนั้นไปตั้งวางโชว์ไว้ที่บ้าน เพื่ออวดแขกไปใครมาด้วยความภาคภูมิใจว่า "ฝีมือของผมเอง" จึงถือว่าเป็นการลบหลู่อุดมการณ์ที่ดีงามและยิ่งใหญ่ของคุณสืบ นาคะเสถียร และไม่ว่าเขาจะได้รับการตัดสินลงโทษหรือไม่! หนักเบาอย่างไร? แต่ประชาชนส่วนใหญ่ ก็มีคำพิพากษาตามระดับความคิดเท่ากุ้งหอยไว้ให้ สัตว์ประเสริฐฐฐฐ...อย่างเขาแล้วเช่นกัน
ถึงตรงนี้ ถ้าใครอยากจะรู้จัก “สืบ นาคะเสถียร” ก็สามารถค้นหาชีวประวัติ ผลงาน ของคุณสืบได้ไม่ยากทาง Google แต่มีเพลงๆหนึ่ง ที่แต่งและร้องโดยน้า “แอ๊ด คาราบาว” ได้แต่งเพลงๆนี้เอาไว้ ชื่อเพลง "สืบทอดเจตนา" และได้นำภาพเหตุการณ์จริงในการปฏิบัติงานในพื้นที่ของคุณสืบ..มาร้อยเข้ากับบทเพลงๆนี้ ใครไม่เคยฟัง ไม่เคยเห็น ผมอยากจะกราบวิงวอนขอให้ทุกท่านเข้าไปฟัง เพราะผมอยากให้ทุกท่านรู้จักกับคนดีศรีแผ่นดินคนนี้ “สืบ นาคะเสถียร” คนรัก..และรักษ์สัตว์ที่ไม่ประเสริฐ น้อมคารวะ ดวงวิญญาณ คุณสืบ..มา ณ ที่นี่ด้วยครับ